นายสุรชัย สุทธิธรรม นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ เปิดเผยภายหลังการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2560 และการเลือกตั้งนายกสมาคมฯ ว่า ตนได้รับการคัดเลือกให้เป็นนายกสมาคมฯ อีก 1 ปี ได้เตรียมแนวทางในการดำเนินการไว้แล้ว โดยแผนงานที่ต้องเร่งดำเนินการให้มากที่สุดมี 3 ข้อคือ การต่อต้านการนำเข้าเนื้อหมูจากสหรัฐอเมริกา การป้องกันโรคระบาด โดยเฉพาะโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever) ที่ถึงแม้ว่าจะยังไม่พบในประเทศไทย แต่ได้มีการเตรียมความพร้อมในการป้องกันอย่างเต็มที่ไว้แล้ว รวมถึงการผลักดันให้เกิดความสามัคคีและการร่วมมือระหว่างกันในสมาชิกของสมาคมฯ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมใหม่ในสมาคมฯ โดยสิ่งสำคัญที่สุดในการดำเนินงานหลังจากนี้คือการรักษาเสถียรภาพของราคาหมูอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากราคาของเนื้อหมู มีปัจจัยสภาพแวดล้อมร่วมด้วยค่อนข้างมาก จึงอยากให้เกษตรกรดูแลป้องกันหมูของตนเองไม่ให้ติดโรคระบาดหรืออยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงใด ซึ่งต้องเฝ้าระวังดูแลรักษาอย่างดี โดยหากภายใน 6 เดือนนี้ต่อจากนี้ หมูในประเทศไทยไม่ติดโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร จะถือว่าการทำดำเนินงานทั้งหมดได้สำเร็จแล้ว
นายสุรชัย กล่าวว่า หลังจากนี้อีกหนึ่งเดือนจะมีการเลือกตั้งกรรมการชุดใหม่ เพื่อสรรหาเด็กรุ่นใหม่เข้ามาทำหน้าที่ในสมาคมฯ เนื่องจากกรรมการชุดเดิมอายุมากแล้ว หากจะให้ดำเนินงานต่อไปอาจไม่เหมาะสมและค่อนข้างมีความเกรงใจต่อคณะกรรมการชุดเดิม ซึ่งหากได้คณะกรรมการชุดใหม่มาแล้ว ก็จะดำเนินงานตามแนวทางที่วางไว้ทันที อย่างไรก็ตาม อยากขอความอนุเคราะห์จากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้นำโรคระบาด อหิวาต์แอฟริกาในสุกร (African Swine Fever) นี้ ขึ้นเป็นวาระแห่งชาติให้ได้ เนื่องจากเป็นโรคที่หากเกิดขึ้นในไทย จะมีความรุนแรงมากและสร้างความเสียหายให้กับผู้ประกอบการเป็นอย่างมาก เพราะหากผู้ประกอบการรายใดติดโรคนี้ จะไม่สามารถเลี้ยงหมูได้อีกถึงสามปี เพราะเชื้อยังอยู่ โดยพื้นที่ที่มีความเสี่ยงควรเฝ้าระวังและดูแลรักษาอย่างเต็มที่คือ พื้นที่ที่ติดกับชายแดนทั้งหมด อาทิ ภาคเหนือที่มีพื้นที่พื้นที่ติดกับชายแดนจำนวนมาก ภาคใต้ที่มีหมูป่าจำนวนมาก และทำให้มีโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อโรคระบาดได้
ที่มา : มติชนออนไลน์ 05-12-2018
|